• สหรัฐอเมริกา ในปี 2554 สหรัฐอเมริกามุ่งเน้นการจัดสรรคลื่นความถี่เพิ่มเติมสำหรับบริการบรอดแบนด์ไร้สาย โดย คณะกรรมาธิการการสื่อสารแห่งสหพันธรัฐ (FCC) ได้ผลักดันให้มีการประมูลคลื่นความถี่ในย่าน 700 MHz และ 2.5 GHz ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามขยายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทั่วประเทศ
• สหภาพยุโรป สหภาพยุโรปในปีนี้เน้นการจัดสรรคลื่นความถี่สำหรับเทคโนโลยี LTE (Long-Term Evolution) และบริการไร้สาย โดยเฉพาะในย่าน 800 MHz ซึ่งเดิมใช้สำหรับการกระจายเสียงทางโทรทัศน์ โดยมีการเปลี่ยนผ่านจากระบบแอนะล็อกเป็นดิจิทัล (Digital Switchover) เพื่อลดการใช้คลื่นความถี่ซ้ำซ้อน
• ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นเน้นการจัดสรรคลื่นความถี่เพื่อรองรับการใช้งานของระบบสื่อสารไร้สาย 4G โดยเฉพาะในย่าน 1.7 GHz และ 2.6 GHz ทั้งนี้ ญี่ปุ่นยังมีการลงทุนอย่างหนักในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของอุปกรณ์พกพาและการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ (IoT)
• จีน จีนในปี 2554 มุ่งเน้นการจัดสรรคลื่นความถี่เพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีโทรคมนาคมภายในประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาบริการ 3G และเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัว 4G ในอนาคตอันใกล้ ความพยายามของจีนมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนผู้ให้บริการท้องถิ่น เช่น China Mobile และ China Unicom
1. ความขัดแย้งระหว่างภาคส่วน ความต้องการใช้คลื่นความถี่ของอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การทหาร การบิน และการโทรคมนาคม มักสร้างความขัดแย้งเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากรที่มีจำกัด
2. การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี การเปลี่ยนผ่านจากระบบแอนะล็อกไปสู่ดิจิทัลต้องใช้เวลาและการลงทุนสูง โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา
3. การจัดการการรบกวนสัญญาณ การใช้งานคลื่นความถี่ที่หนาแน่นในบางพื้นที่ทำให้เกิดปัญหาการรบกวนสัญญาณ ซึ่งต้องการการกำกับดูแลที่เข้มงวด
ในปี 2554 การจัดสรรคลื่นความถี่วิทยุในต่างประเทศสะท้อนถึงความพยายามของรัฐบาลและองค์กรระดับนานาชาติในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและความต้องการของผู้ใช้งาน แม้จะมีข้อจำกัดและความท้าทาย แต่การบริหารจัดการคลื่นความถี่อย่างมีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการเชื่อมต่อทั่วโลก